วันพฤหัสบดีที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2554

หงส์ชีช้ำ! โดนกุหลาบยิง 3-1 เจิดบอดโทษ

สนาม : อีวู้ด พาร์ค

          สตีฟ คีน ผู้จัดการทีม แบล็คเบิร์น ได้ คริสโตเฟอร์ แซมบ้า กลับมายืนจับคู่เซนเตอร์ฮาล์ฟกับ ไรอัน เนลเซ่น ส่วนคู่กองหน้าดร็อป เอล-ฮัดจิ ดิยุฟ เป็นสำรอง และส่ง เบนจานี่ เอ็มวารูวารี ลงมายืนคู่  มาเม่ บิรัม ดิยุฟ

          ด้าน "หงส์แเดง" ลิเวอร์พูล ของผู้จัดการทีม รอย ฮ็อดจ์สัน ส่งสตาร์ดังประจำทีมอย่าง สตีเว่น เจอร์ราร์ด กับ เฟร์นานโด ตอรร์เรส ลงเป็นตัวจริงทั้งคู่ โดยให้ ตอร์เรส ยืนคู่กองหน้ากับ ดาวิด เอ็นก๊อก และใช้ มักซี่ โรดริเกซ กับ โจ โคล ขึ้นเกมรุกริมเส้น

          เขี่ยลูกบอลเริ่มเกมมาช่วงแรกรูปเกมของทั้งสองทีมค่อนข้างสูสี นาที 17 เจ้าบ้าน "กุหลาบไฟ" มาพลาดการได้ประตูออกนำอย่างน่าเสียดาย มาร์ติน โอลส์สัน ลากบอลขึ้นมาริมเส้นด้านซ้าย ก่อนบรรจงครอสบอลผ่าน มาร์ติน สเคอร์เทล มาให้ มาเม่ บิรัม ดิยุฟ วิ่งเข้ามาชาร์จบอลจ่อๆไปตรงตัว โฆเซ่ เรน่า รับเข้าซองอยู่หมัด

          ทรงเกมของ หงส์แดง ไร้ทิศทางอย่างหนักถูกเจ้าบ้านครองบอลเดินเข้าหาตลอด แต่มาได้ลุ้นจากลูกโต้กลับ เกล็น จอห์นสัน เติมเกมบุกขึ้นมาดีดบอลต่อให้ โจ โคล วิ่งสอดขึ้นตวัดบอลเรียดกึ่งยิงกึ่งผ่านหลุดออกเสาสองไปชนิดเส้นยาแดงผ่าแปด

           กุหลาบไฟ ตอบโต้มาทันทีในจังหวะต่อมา เอ็มวารูวารี ซัดบอลไปติดบล็อกมาเข้าทางให้ มาเม่ บิรัม ดิยุฟ ได้ซัดบอลจังหวะสองข้ามคานออกไป

          นาที 31 เจอร์ราร์ด มาทำได้สวยจาการลากบอลขึ้นมาเปิดบอลเรียดเข้ากลางมาให้ โจ โคล เติมขึ้นมากดบอลไปแฉลบ แซมบ้า ข้ามคานออกไป

          แต่แล้วถัดมานาทีเดียวเป็นแฟนบอล กุหลาบไฟ ในสนามได้เฮฉลองประตูออกนำ 1-0 จากจุดเริ่มที่ เอ็มวารูวารี เก็บบอลได้ที่แดนหน้าก่อนไหลบอลทะลุช่องให้ โอลส์สัน สอดขึ้นมากดบอลเรียดสวนตัว เรน่า ตุงตาข่าย โดยจังหวะนี้เป็นความผิดพลาดของ จอห์นสัน ที่ทิ้งตำแหน่งไป

          เท่านั้นยังไม่พอนาที 38 ตาข่ายของ หงส์แดง ก็มาสะเทือนอีกครั้ง มอร์เท่น กัมส์ท พีเดอร์เซ่น เปิดบอลจากริมเส้นฝั่งซ้ายมาให้ เอ็มวารูวารี บังบอลและพลิกบอลหนี โซติริออส คีร์เกียกอส มาดิ้อๆ ก่อนอัดบอลเต็มข้อแสกหน้า เรน่า ตุงตาข่ายแทบขาด แบล็คเบิร์น นำห่างเป็น 2-0 และจบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้

          เริ่มเกมครึ่งหลังมาเป็น หงส์แดง เดินเครื่องบุกเข้าใส่เจ้าบ้านทันทีและมาได้โอกาสครั้งแรกจาก เจอร์ราร์ด พาบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษและกดบอลเต็มข้อที่เสาแรกไม่ผ่านมือ มาร์ค บันน์ ที่ผวาสะกิดบอลออกหลังไปได้ทัน

          นาที 51 ฮ็อดจ์สัน มาปรับแนวรับถอด คีร์เกียกอส ที่ฟอร์มสุดบู่เป็นบ่อน้ำมันให้ กุหลาบไฟ เจาะใส่อย่างเมามันออก และส่ง แดเนียล แอ็กเกอร์ กองหลังทีมชาติเดนมาร์กลงมาเล่นแทน

          เกมของ หงส์แดง ดูดีขึ้นตามลำดับ และมาได้ลุ้นอีกครั้งจากจังหวะที่ โจ โคล เก็บบอลที่ แซมบ้า โขกสกัดออกมาได้ ก่อนกดบอลเรียดเน้นๆไปเข้าซอง บันน์ ล้มตัวรับไว้อยู่หมัด

          แต่แล้วในนาที 57 โอกาสที่ ลิเวอร์พูล จะกลับมาแทบมอดสนิทเมื่อมาโดนส่องลูกที่สาม เดวิด ฮอยเล็ตต์ ลากบอลขึ้นมาทางริมเส้นด้านซ้ายผ่าน จอห์นสัน ที่เอาไม่อยู่ตามเคย ก่อนปาดเรียดเข้ากรอบเขตโทษมาให้  เอ็มวารูวารี เข่ามาชาร์จบอลตุงตาข่ายสบายแฮ แบล็คเบิร์น ทิ้งไกลเป็น 3-0

          หลังนำไกลสุดกู่ทำให้เจ้าบ้านผ่อนเกมลงไป เปิดโอกาสให้ ลิเวอร์พูล บุกเข้าใส่บ้าง และมาได้ลุ้นจากจังหวะที่ โจ โคล โชว์เหนืองัดบอลข้ามแนวรับเจ้าบ้านมาให้ ตอร์เรส ฮาล์ฟวอลเลย์บอลโด่งข้ามคานออกไป

          นาทีที่81 สาวกเดอะค็อป ได้เฮกันบ้าง เมื่อ เฟร์นานโด ตอร์เรส มีโอกาสซัดบอล บอลกระเด้งกองหลัง แบล็คเบิร์น มาเข้าทางปืนของ สตีเว่น เจอร์ราร์ด ยิงเต็มเท้าส่งบอลตุงตาข่ายให้ ลิเวอร์พูล ไล่มา 1-3

          สี่นาทีต่อมา แฟนทีมเยือนมีความหวังขึ้นมาอีก จากการที่ เจอร์ราร์ด หลุดเข้าไปในเขตโทษ แล้วโดน มิเชล ซัลกาโด้ เสียบเข้าเต็มๆ ผู้ตัดสิน ชี้เป็นลูกจุดโทษให้ทีมหงส์แดงทันที ก่อน กัปตันทีมคนเก่ง จะลุกขึ้นมาสังหารจุดโทษเอง แต่กลับกลายเป็น เจอร์ราร์ด ยิ่งจุดโทษข้ามคานไปอย่างน่าผิดหวัง

          ช่วงเวลาที่เหลือเจ้าบ้านเน้นครองบอลเอาไว้กับตัว ขณะที่ หงส์แดง ก็ดูถอดใจไปแล้ว ส่งผลให้จบเกม แบล็คเบิร์น เปิดบ้านถล่ม ลิเวอร์พูล 3-1 เก็บสามแต้มเต็มเข้ากระเป๋า ส่วนทีมหงส์แดง แพ้นอกบ้านเป็นนัดที่ 7 ของฤดูกาลแล้ว

                                                                                                                                   By : Pasid Lek-Uthai

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น